เกริ่นกันก่อน

“แม่แจ๋ว” ในที่นี้ไม่ได้ชื่อ “แจ๋ว” แต่แม่แจ๋วคือแม่ที่มีลูกชายสามคนอาชีพปัจจุบันเป็นคุณนายแจ๋วเต็มตัว คราวนี้คุณคงพอรู้เป็นนัยแล้วว่า“แม่แจ๋ว”มีความหมายอย่างไรเพราะหลายๆท่านก็กำลังมีอาชีพแบบที่ดิฉันเป็นอยู่

ดิฉันหยุดทำงานเมื่ออายุ 45 ปี เพื่อมาดูแลลูกวัยรุ่นสองคน และลูกน้อยอายุสองขวบหนึ่งคนเป็นลูกชายทั้งสามตอนที่มีลูกชายคนเล็กนั้นไม่ตั้งใจเพราะเธอมาอยู่ในท้องเมื่อดิฉันอายุได้ 42 ปีขณะนั้นลูกชายคนโตอายุ 11 ขวบ และคนที่สองอายุ 9 ขวบ ดังนั้นเมื่อคลอดเจ้าตัวเล็ก จึงเห่อกันทั้งพ่อทั้งลูก แต่ก็เป็นผลให้ดิฉันร่างกายอ่อนแอลงมากทันทีเนื่องจากการทำงานหนัก ไม่ได้ออกกำลังกายรวมทั้งการคลอดลูกในขณะที่มีอายุมากและร่างกายไม่แข็งแรงพอ คุณพ่อของลูกเลยขอให้หยุดทำงาน เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เลี้ยงลูกให้ดีและเป็นแม่บ้าน เราเห็นพ้องกันว่า ลูกชายคนโตสองคนเริ่มเข้าสู่ความเป็นวัยรุ่นแล้ว ควรดูแลใกล้ชิดให้มาก เรามีรายได้น้อยลงก็ไม่เป็นไรช่วยกันประหยัดหน่อย ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสฯ เราก็จะอยู่กันได้อย่างไม่เดือดร้อน

จากการที่เลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิด และลูกกำลังเป็นวัยรุ่น จึงมีแต่เรื่องของลูกๆ ทั้งนั้นมาเล่าสู่กันฟัง ดิฉันคิดว่าบางเรื่องอาจจะพ้องกับเรื่องของคุณพ่อคุณแม่บางคนที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ แม้หลายเรื่องจะผ่านมานาน จนลูกคนโตใกล้จบมหาวิทยาลัยและทำงานแล้ว แต่โลกของวัตถุนิยมไม่เคยเปลี่ยนแปลง มีแต่จะหนักหนาสาหัสมากขึ้น ความลุ่มหลงในวัตถุล้วนสร้างความเห็นแก่ตัว ไขว่คว้าหาแต่สิ่งที่ตนรักตนชอบ เมื่อไม่ได้สมความปรารถนา ก็เกิดการยื้อแย่งเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ ก่อความเดือดร้อนแก่สังคมนานัปการ

สุดท้ายแห่งความหวังของคนเป็นแม่คือ เมื่อใดที่ลูกมีครอบครัว เขาจะรู้ว่าแม่ทุ่มเททั้งกาย จิตใจและวิญญาณ ในการอุ้มชูดูแลให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพอย่างไร ความหวังของแม่ก็เพียงแค่ให้ลูกเป็นคนดี ช่วยเหลือตนเองได้ และไม่เป็นภาระแก่สังคม อีกทั้งสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการเป็นลูก จะทำให้เขานำประสบการณ์ในวัยเด็ก ไปปรับใช้กับลูกๆของพวกเขาได้บ้างในภายภาคหน้า

อย่างไรก็ดี ดิฉันคิดว่าแม่ทุกคนก็คงคิดเหมือนกันคือ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ลูกจะเติบโตทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิไปสักเท่าใด มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง หรือมีชีวิตที่เบี่ยงเบนตกต่ำปานใดก็ตาม แม่ก็ยังคงเป็น“แม่แจ๋ว” ที่มีแต่ความรัก ความเมตตาและความเอื้ออาทรแก่ลูก จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตแม่

หากหนังสือเล่มนี้จะพอเป็นประโยชน์ต่อผู้ใดผู้หนึ่งแม้เพียงเล็กน้อย ดิฉันขออุทิศความดีทั้งสิ้นแด่คุณแม่ผู้ให้กำเนิด คุณพ่อผู้ให้การเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ และแม่เล็กผู้ทุ่มเททั้งกายและใจอุ้มชูดูแลประดุจแม่ที่แท้จริง รวมทั้งคุณแม่ของสามี(คุณย่าของลูก) ที่ให้คำแนะนำให้การ “เลี้ยงลูก” ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งแก่แม่แจ๋ว

หนังสือเล่มนี้จะสำเร็จลงไม่ได้เลย หากไม่ได้กัลยาณมิตรหลายท่าน ที่ช่วยขัดเกลาและบอกกล่าวสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่องานเขียนของ “แม่แจ๋ว” แม้จะมิได้เอ่ยนามท่านในที่นี้ แต่แม่แจ๋วก็จะขอระลึกพระคุณของท่านตลอดไป